ใช้กันส่วนใหญ่มี 2 ประเภท

1. PU [MF] ( พื้น พียู ชนิดผิวเรียบ )
การเคลือบพื้น พียู ชนิดผิวเรียบ ความหนา 4 – 8 มม. ระบบเหมาะสมสำหรับการใช้งานหนัก สามารถรองรับแรงกระแทก มีความแข็งแกร่ง สามารถทนต่อความชื้น และพื้นที่ ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันได้ดี ทนทานต่อสารเคมี กรด-เบสและสารละลายได้ดี สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคที่เรียเหมาะสมหรับเคลือบพื้นในงานอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และเครื่องสำอาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

2. PU [HF] ( พื้น พียู ชนิดผิวหยาบ )
การเคลือบพื้น พียู ชนิดผิวหยาบ ความหนา 6 – 12 มม. ระบบเหมาะสมสำหรับการใช้งานหนัก สามารถรองรับแรงกระแทก มีความแข็งแกร่ง สามารถทนต่อความชื้น และพื้นที่ ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันได้ดี ทนทานต่อสารเคมี กรด-เบสและสารละลายได้ดี สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคที่เรียเหมาะสมหรับเคลือบพื้นในงานอุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร และเครื่องสำอาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

การขัดผิวหน้าคอนกรีตให้เงางามดุจกระจก ด้วยเครื่องขัดเงาแบบพิเิศษนำเข้าจากอเมริกาและ แผ่นขัด Diamond Polishing Pads.
ช่วยปรับปรุงคอนกรีตเดิมให้แข็งแรงทนรอยขีดข่วนด้วย Chemical Hardener Sodium Sium Silicate พร้อมทั้งช่วยป้องกันการเกิดฝุ่นปูนที่จะเกิดขึ้นจากการใช้งาน
สามารถเพิ่มสีสันผิวคอนกรีตให้สวยงาม ได้ด้วย ระบบการย้อมสีที่คงทนถาวรตามสภาพเดิมของผิวคอนกรีต ไม่หลุดง่าย เหมือนระบบเคลือบผิวโดยทั่วไป ตามแบบระบบเก่าๆที่มี ปัญหาการหลุดร่อน สีย้อมนำเข้าจากอเมริกา ซึ่งจะซึมลงบนเนื้อคอนกรีตประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ไม่เป็นฟิล์มเคลือบ
ลดการซึมผ่านของน้ำและของเหลวต่างๆ ได้ดี เป็นผิวแบบนาโน ทำ ความสะอาดง่าย และยังได้ รองว่าเป็นผิวที่ปราศจากฝุ่น ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
รับน้ำหนักได้เต็มที่ ด้วยคุณสมบัติของโครงสร้างคอนกรีตเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่มีรอยต่อหรือรูโพรง ข้างใต้ เหมือนระบบแผ่นปูพื้นทั่วไป อันจะเป็นสาเหตุให้พื้นผิวเสียหายจากแรงกระแทกเมื่อใช้งาน
พื้นสามารถใช้งานได้ตลอดอายุของสภาพผิวพื้น หรือ ตลอดความแข็งแรงของพื้นเดิม
ติดตั้งได้เร็วกว่า ระบบแผ่นปูพื้นทั่วไป
สามารถ ติดตั้ง หรือ ขัดเงาใหม่ได้เลย หากความเงา หรือ ผิวเดิมเสื่อมสภาพจากการใช้งานโดย ไม่ต้องเสียเวลารื้อ ของเดิมออก เหมือนระบบ แผ่นปูพื้น ทั่วไป ทำให้ลดค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

**ซึ่งแต่ละประเภทเหมาะกับหน้างานและการใช้งานที่แตกต่างกันไป

หลายๆ คนคงเคยคิดว่า การเลือกซื้อห้องเย็น แค่เลือกขนาดของห้องก็พอ แล้วนำอาหารหรือสินค้าต่างๆ เข้าไปเก็บในห้องเย็นเลย ผมก็เคยคิดแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วการเลือกห้องเย็นนั้นมี ปัจจัย หลายอย่าง ที่เราต้องมาพิจารณา เพื่อให้ได้ห้องเย็นที่เหมาะกับเรา เช่น

– อุณหภูมิที่ต้องการ
– ปริมาณสินค้าที่เข้าห้องเย็นต่อวัน
– อุณหภูมิสินค้าก่อนเข้าห้องเย็น

หากเป็นห้องฟรีสแข็ง
– ต้องการให้สินค้าแข็งภายในเวลากี่ ชั่วโมง เป็นต้น

เราจะแยกเป็น 3 ประเด็นหลักให้เป็นแนวทางเบื้องต้น คือ

1.ความชื้นของคอนกรีต การติดตั้งผิดขั้นตอนและการใช้งานพื้นอีพ๊อกซี่ที่เหมาะสม
ความชื้นจากคอนกรีตเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการบวมและหลุดร่อนของพื้นอีพ๊อกซี่
ซึ่งโดยปกติแล้วตัวฟิล์มมีการยึดเกาะได้ดีมากบนพื้นปูน แต่การดันจากความชื้นจากข้างในปูนทำให้หลุดได้ แรงดันจากการออสโมซิสมีความรุนแรงจนสามารถทำให้ฟิล์มสีเกิดการพอง (Blistering Defect) แล้วฟิล์มสีก็หลุดร่อนในที่สุด

2.การบวมของพื้นอีพ็อกซี่จาก (Blistering defect) จากความชื้น
การเตรียมพื้นผิวก่อนการทำการทาสีผิดวิธี เช่น การเตรียมพื้นผิวไม่ดี ไม่สะอาด มีคราบน้ำมัน หรือบางครั้งไม่ทาตัวรองพื้นก่อนทาสีอีพ๊อกซี่ หรือใช้ผิดตัว ซึ่งปูนต้องถูกปรับสภาพก่อนการจึงจะทำให้เกิดการยคดเกาะที่ดี ไม่หลุดง่าย

3. การหลุดของพื้นอีพ็อกซี่จากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม
การใช้งานพื้นอีพ๊อกซี่ที่เหมาะสม ตัวสีพื้นอีพ๊อกซี่ถูกออกแบบมาสำหรับพื้นที่ใช้ระบบล้อเลื่อน เช่น ล้อ PU, ไนลอนท์ หรือ ล้อยางเป็นต้น หากเราใช้งานผิดวิธีหรือไม่เหมาะสม เช่น การสไลด์ด้วยพาเลตไม้ การถูด้วยชิ้นงานเหล็ก ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีความแข็งกว่าพื้นอีพ๊อกซี่ ผลรับก็คือพื้นเกิดการขีดข่วน เป็นรอย ซึ่งมันทำลายพื้นผิวแล้ว จึงไม่สามารถทำการเช็ดออกได้